เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2554 ฉันได้เดินทางไปเที่ยวจังหวัดลำปางเมืองแห่งรถม้าที่ชาวลำปางได้อนุรักษ์ไว้มาเป็นเวลานาน เพราะว่าเป็นงานจัดเลี้ยงรุ่นซึ่ง 1 ปี จะจัดงานหนึ่งครั้ง บังเอิญฉันอยู่ต่างจังหวัดจึงต้องมีการเดินทางไป ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเศษเนื่องจากระยะทางไกลถึง255 กิโลเมตร หลังจากงานเลี้ยงคืนนั้นผ่านไปด้วยความสนุกสนาน ในเช้าวันรุ่งขึ้นฉันและเพื่อน ๆ จึงได้เดินทางไปเที่ยวและทำบุญที่วัดพระธาตุลำปางหลวงที่อำเภอเกาะคาจังหวัดลำปาง
 |
ท่องเที่ยวไทยไปเที่ยววัดพระธาตุลำปางหลวง |
เมื่อเดินทางไปถึงวัดพระธาตุลำปางหลวง ฉันรู้สึกตื่นตาตื่นใจพอสมควร เพราะก้าวแรกที่ลงจากรถเราจะมองเห็นทางขึ้นวัดซึ่งดูแปลก ๆ เพราะมันดูเหมือนเป็นกำแพงเมืองโบราณอะไรทำนองนั้นแหละเมื่อเดินขึ้นบันไดผ่านประตูวัดเข้าไปข้างในแล้วจะมองเห็นพระอุโบสถหลังใหญ่ที่หันหน้าไปในทางทิศตะวันออกและด้านหลังพระอุโบสถจะมีองค์พระธาตุที่เก่าแก่ตั้งสูงตระหง่านมีความกว้างประมาณ 15 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร ประวัติของพระธาตุคาดว่าน่าจะเป็นวัดที่ก่อตั้งขึ้นมานานนับหลายร้อยปีแล้ว ขณะที่เดินชมความเก่าแก่ของวัดก็จะมีเพื่อนร่วมรุ่นที่มาคอยอธิบายและบอกถึงความเป็นมาของวัดพระธาตุว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และมีความพิศวงที่เกี่ยวกับภาพขององค์พระธาตุที่ไปตกสะท้อนให้เห็นในห้องมืดที่อยู่ด้านหลังองค์พระธาตุในลักษณะหัวกลับซึ่งถ้าเรามองในเชิงวิทยาศาสตร์จะรู้ว่าเป็นเรื่องของแสงหักเหที่ไปตกกระทบตรงผืนผ้าที่แขวนอยู่ข้างในห้องมืดที่ทางวัดจัดไว้ให้ดูซึ่งถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องแปลกมันแปลกดีนั่นเป็นความเชื่อของชาวพื้นบ้าน เมื่อเดินชมจนทั่วบริเวณวัดพระธาตุแล้วเราจึงได้ไปร่วมกันทำบุญทำสังฆทานเพื่อเป็นสิริมงคลและอุทิศกุศลให้กับผู้ล่วงลับ ทำให้จิตใจสบายด้วยการอิ่มบุญในวันนั้น อยากจะขอบอกว่าท่านผู้ใดที่ได้มีโอกาสเดินทางผ่านจังหวัดลำปางและมีเวลาลองแวะท่องเที่ยวเมืองลำปาง ไปเที่ยวที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งอยู่ที่ตำบลเกาะคาห่างจากตัวเมืองของลำปางประมาณ 15 กิโลเมตรแล้วจะเกิดความประทับใจ เพราะฉันเองก็ยังมีความติดตรีงใจที่ได้ไปเที่ยวชมในครั้งนั้นไม่น้อยเลยที่เดียวคิดว่าโอกาสหน้าได้เดินทางผ่านเมืองลำปางและมีเวลาคงต้องแวะเที่ยวและทำบุญที่วัดนั้นอีก